เวลาทำการ

จันทร์-เสาร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@seektravel

Travel License : 41/00733

หน้าแรก

/

ผลงานที่ผ่านมา

/

รีวิวบรรยากาศกรุ๊ปเหมาเวียดนามกลาง 4 วัน 3 คืน Day 3 - 4

รีวิวบรรยากาศกรุ๊ปเหมาเวียดนามกลาง 4 วัน 3 คืน Day 3 - 4

รีวิวบรรยากาศกรุ๊ปเหมาเวียดนามกลาง 4 วัน 3 คืน Day 3 - 4

Day 3 และ Final Day มาแล้วว
วันนี้ผมจะรวมวันที่ 3 ถึง วันสุดท้ายนะครับ เป็น EP สุดท้ายแล้ว มาจนถึงตอนนี้ต้องกราบขอบพระคุณ คุณลูกค้าทุกท่านอีกครั้งนะครับที่ให้พวกเราได้ดูแลตลอดการเดินทางในครั้งนี้ และพวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ให้บริการทุกๆท่านอีก
"เพราะความสุขของลูกค้าก็คือความสุขของพวกเราครับ"

เปิดมาตอนเช้าอันสดใสกับมื้อเช้าที่โรงแรม Midtown hotel เป็นวันที่ 3 ของการเดินทางแล้ว (วันนี้แอบบอกเลยว่าสนุกมากก)
บรรยากาศในห้องอาหารคึกคักมากๆ เพราะคุณลูกค้าทุกท่านตื่นกันไวมากๆ เพราะลุยกับวันใหม่
อาหารเช้าของ midtown hotel น่ากินมากๆครับ เป็นอาหารพื้นเมืองของเวียดนามเป็นส่วนใหญ่เลย (รสชาติถูกปากคนไทยด้วยครับ)

หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อเลยย ซึ่งสถานที่ที่เราจะเป็นกันก็คือ ร้านไม้ไผ่ นั้นเองง ระหว่างทางที่เดินทางก็คึกคันไม่แพ้กันเลย ผู้คนในเวียดนามออกกันมาเป็นปกติ ซึ่งต่างจากช่วงโควิดมากๆครับ โดยที่เวียดนามนั้นเขามองโควิดเป็นแค่ไข้หวัดกันแล้วเพราะฉะนั้นไปเวียดนามแทบไม่จำเป็นต้องใส่แมสเลย (แต่ทางที่ดีป้องกันไว้ดีกว่าแก้นะครับ) พอถึงที่ร้านไม้ไผ่แล้วก็จะเป็นวิทยากรมาบรรยายเกี่ยวกับสรรพคุณของไม้ไผ่และสินค้าต่างๆที่ทางร้านมี ซึ่งทางร้านมีของขายเยอะแยะเลยครับ (แต่ในส่วนของที่ขายไม่สามารถถ่ายมาให้ดูได้นะครับ เพราะทางร้านไม่อนุญาตให้ถ่าย ใครอยากเห็นต้องมาเองแล้วว) ซึ่งตัวผู้เขียนก็จัดไปชุดใหญ่เหมือนกันครับ ของเขาดีจริง5555

หลังจากออกมาจากร้านแล้วก็แวะกินข้าวเติมพลังสะหน่อย เพราะ ช่วงบ่ายเตรียมสนุกกันได้เลยย ที่ต่อมาที่เราไปกันก็คือ "หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน" นั้นเอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ในตัวเมืองดานังที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในเรื่อง งานฝีมือ การแกะสลักหินอ่อน หินหยก ท่านสามารถบันทึกภาพหรือซื้องานแกะสลักเหล่านี้เพื่อเอากลับไปเป็นของฝากหรือซื้อกลับไปเป็นของประดับในบ้านได้ด้วย แต่ไฮไลค์จริงๆคือ KIPLING Shop ที่อยู่ด้านบนนั้นเอง ของแท้ 100% ครับ ซึ่งคุณลูกค้าของพวกเราช้อปกันสนุกสนานเลยครับ

ที่ต่อมาที่เราไปกันก็คือ เมืองโบราณฮอยอัน ครับ ประวัติของเมืองโบราณฮอยอันนั้นตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำทูโบน ใกล้ชายฝั่งทะเล และเป็นท่าเรือเก่าที่เจริญรุ่งเรืองมากใน
ชื่อไฟโฟฮอยอันเป็นศูนย์กลางสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ต่อมาเมื่อฮอยอัน ได้รับความเสียหายจากการสู้รบและแม่น้ำตื้นเขิน เมืองท่าจึงไปสร้างขึ้นที่เมืองดานังแทน ทำให้ฮอยอันในปัจจุบันสงบเงียบ มีสภาพบ้านเรือนที่สวยงาม สร้างด้วยไม้มีประตูแกะสลักและห้องโปร่งๆ จนองค์การยูเนสโกและรัฐบาลโปแลนด์ได้ริเริ่มให้ทุนทำโครงการบูรณะ เพื่อปกป้องเขตเมืองเก่าและอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของเวียดนาม บรรยากาศโดยรอบความรู้สึกเหมือนเดินในเมืองเก่าเลยครับ สวยงามมาก ทั้งเราและคุณลูกค้าได้รูปไปลงโซเชียวกันเยอะเลยครับ ใครเป็นสายถ่ายรูปห้ามพลาดเลย ที่ต่อไปเป็นบ้านเก่าติดสะพานญี่ปุ่นในฮอยอัน ด้านในมีขายงานปัก ตัวบ้านสองชั้น สามารถเดินขึ้นไปดูตัวบ้านชั้นสองได้ด้วยครับ ที่ต่อมาคือ สะพานญี่ปุ่น นั้นเอง ที่สร้างโดยชาวญี่ปุ่น เป็นรูปทรงโค้ง มีหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นลอนคลื่น ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรง ตรงนี้ก็ถ่ายรัวๆ เลยครับ ที่ต่อไปก็ไปไหว้ ศาลเจ้าโบราณ ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ของเมืองฮอยอัน สี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งสร้างเชื่อมเขตชาวญี่ปุ่นกับชาวจีน บ้านประจำตระกูลที่สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.2335 อยู่บนถนนตรันฝู เป็นที่พบปะของผู้คนที่อพยพมาจากฟุกเกี้ยนที่มีแซ่เดียวกันครับ หลังจากไปกันครบแล้วก็เดินเที่ยวกันเต็มอิ่มเลยครับ มีทั้งคาเฟ่สวยๆและที่ช้อปปิ้งดีๆด้วยครับ

ต่อมาก็ไฮไลค์ประจำวันนี้เลยครับ นั้นก็คือ ล่องเรือกระด้ง นั้นเองครับ ซึ่งทุกคนจะได้รับชมวัฒนธรรมอัน
สวยงามของชาวท้องถิ่น และระหว่างที่ล่องเรือกระด้งอยู่นั้นชาวบ้านที่นี้ก็จะมีการขับร้องพลงพื้นเมือง และนำไม้พายเรือมาเคาะเพื่อประกอบเป็นจังหวะดนตรีด้วยครับ โดยที่เรือกระด้งนั้นเป็นเรือที่ชาวประมงใช้เป็นเรือเล็กในการเข้าฝั่งเอาปลามาเก็บนั้นเอง หลังจากนี้ผมคงไม่ต้องบรรยายแล้ว ให้ภาพเหล่าเรื่องแล้วกันครับ55555 นอกคุณลูกค้าจะสนุกแล้วทีมงานก็สนุกไม่แพ้กันครับ55555

หลังจากล่องเรือกระด้งกันเสร็จแล้ว ก็นั่งรถกลับเข้าเมืองดานังกันครับซึ่งเราได้แวะกินข้าวที่ภัตตาคารกัน บอกได้เลยว่ามื้อพิเศษสุดๆครับ กุ้งมังกรเน้นๆ พร้อมไวน์แดงด้วยครับ (แต่ไวน์แดงขออนุญาตไม่เอามาลงนะครับ5555)

หลังจากกินข้าวกันจนเต็มอิ่มก็ถึงที่สุดท้ายกันแล้วนั้นก็คือ สะพานแห่งความรักดานัง นั้นเอง ซึ่งที่นิยมของหนุ่มสาวคู่รักมาก คู่รักจะซื้อกุญแจใสคล้องใส่สะพานกันครับ และสะพานมังกร อีกหนึ่งที่เที่ยวแห่งใหม่ สะพานที่มีที่มีความยาว 666 เมตร ความกว้างเท่าถนน 6 เลน ด้วยงบประมาณเกือบ 1.5 ล้านล้านดอง เชื่อมต่อสองฟากฝั่งของแม่น้ำฮัน เปิดให้บริการเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 38 ปี แห่งอิสรภาพของเมืองดานังครับ

หลังเที่ยวกันเรียบร้อยก็เข้าพักกันที่โรงแรม luxtery hotel ที่ดานังครับ (เหมือนเดิมเลยครับกราบขออภัยครับผมไม่ได้ถ่ายมาอีกแล้ว5555) บรรยายกาศในห้องก็ประมาณนี้เลยครับ

และวันสุดท้ายก็มาถึงแล้วครับ เรากลับมาตรงสะพานมังกรกันอีกครั้งนึงซึ่ง เรามาเพื่อแวะเข้า ตลาดฮาน นั้นเอง ภายในตลาดฮานก็จะเป็นประมาณนี้เลยครับ

ต่อมาเร็วๆเลย คือ เราจะไปกันที่ วัดหลินอึ๋ง กันครับ วัดหลินอึ๋ง เราจะแวะนมัสการเจ้าแม่กวนอิมหลินอึ๋งแกะสลักด้วยหินอ่อนสูงใหญ่ยืนโดดเด่นสูงที่สุดในเวียดนามกันครับ ซึ่งมีทำเลที่ตั้งดี หันหน้าออกสู่ทะเลและด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวสง่างาม หลินอึ๋งมีความหมายว่าสมปรารถนาทุกประการ ตั้งอยู่บนชายหาดบ๊ายบุต ในลานวัดมีพระอรหันต์ 18 องค์เป็นหินอ่อนแกะสลักที่มีเอกลักษณ์ท่าทางที่ถ่ายทอดอารมณ์ทุกอย่างของมนุษย์ซึ่งแฝงไว้ด้วยคติธรรมครับ

ที่สุดท้ายที่พวกเราแวะกันก่อนกลับไทยนั้นก็คือ คาเฟ่ Son Tra Marina ฟีลซานโตรินี ติดทะเล อยู่ใกล้วัดหลินอึ๋งนั้นเองครับ

หลังจากนี้ก็พาคุณลูกค้าและทุกๆท่านกลับไทยกันแล้วครับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบพระคุณทุกๆท่านที่ติดตามกันนะครับ รอบหน้าเราจะไปที่ไหนกันต่อติดตามชมกันด้วยนะครับ
"SeekTravel คิดจะเที่ยวคิดถึงเรา"

จำนวนผู้เข้าชม 182 ครั้ง